ค่าส่ง DHL eCommerce อัพเดท 2023/03/23

ค่าส่ง DHL eCommerce อัพเดท 2023/03/23 ล่าสุด สดๆร้อนๆ ให้เช็คราคากันก่อนที่จะออกไปส่งสินค้ากัน อันนี้จะเป็นราคาที่หน้าช็อป ถ้าส่งที่อื่นที่เป็นพาร์ทเนอร์ของ DHL eCommerce หรือที่เป็น service point อาจจะต้องเช็คกันที่เว็บหลักอีกครั้งนะครับ แต่ที่แน่ๆ เห็นค่าส่งและการคิดราคาค่าส่งสินค้าแล้วตกใจอยู่เหมือนกัน สำหรับคนที่ส่งของที่มีน้ำหนักมาก ของหนักๆ แต่ปริมาณ(ความกว้าง + ยาว + สูง)ไม่เยอะ ราคาดีมากๆๆๆๆๆเลยทีเดียว

รูปโบรชัวร์ ค่าส่ง DHL eCommerce
รูปโบรชัวร์ ค่าส่ง DHL eCommerce

เงื่อนไขการให้บริการ DHL eCommerce

  • พัสดุน้ำหนักไม่เกิน 30 กิโลกรัมต่อกล่อง / กว้าง + ยาว + สูง ไม่เกิน 200 เซนติเมตร
  • กรณีพัสดุสูญหายหรือเสียหาย เนื่องจากความผิดพลาดของบริษัทฯ บริษัทจะชดเชยค่าเสียหายตามมูลค่าสินค้าจริง แต่ไม่เกิน 2000 บาทต่อใบตราส่ง
  • บริการเก็บเงินปลายทาง ค่าธรรมเนียม 3% จากมูลค่าสินค้าที่เรียกเก็บ

หมายเหตุ : กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึง นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ

รูป DHL eCommerce พัสดุที่ไม่สามารถส่งได้ พัสดุที่ส่งได้แต่ไม่รับประกัน
รูป DHL eCommerce พัสดุที่ไม่สามารถส่งได้ พัสดุที่ส่งได้แต่ไม่รับประกัน เช่น เงิน อาหารสด อาหารดิบ

พัสดุต้องห้ามที่ไม่สามารถจัดส่งได้

  • เอกสารระบุตัวตนที่มีข้อมูลซึ่งเป็นความลับ
  • เอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันการเงิน
  • สินค้าที่ประเมินมูลค่าไม่ได้ หรือไม่สามารถหาทดแทนได้
  • อาวุธ สิ่งเทียบอาวุธปืนทุกชนิด สิ่งผิดกฏหมาย/ละเมิดสิขสิทธ์
  • วัตถุไวไฟ หรืออาจก่อให้เกิดการระเบิด
  • สารเคมี ยาพิษ น้ำแข็งแห้ง วัตถุอันตราย
  • สิ่งเสพติด บุหรี่ไฟฟ้า สินค้าประเภทแอลกอฮอล์
  • อัญมณี หินสี โลหะมีค่า
  • สัตว์ สิ่งมีชีวิต ซากพืช ซากสัตว์ ชิ้นส่วนมนุษย์
  • สิ่งของที่มีกลิ่นแรง หรือสิ่งปฏิกูล
  • อาหารสด อาหารดิบ อาหารทะเล หรือไข่สด
  • สินค้าบรรตุลังโฟม หรือสินค้าควบคุมอุณหภูมิ

พัสดุที่สามารถจัดส่งได้ แต่อยู่นอกเหนือเงื่อนไขการรับประกัน

  • สินค้าที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ไม่เหมาะสม แต่มีสถาพสมบูรณ์และแข็งแรง
  • สินค้าประเภทผัก ผลไม้ หรือต้นไม้
  • สินค้าประเภทอาหารแปรรูป อาหารแห้งที่มีวันหมดอายุ
  • สินค้าที่มีส่วนประกอบจากแก้ว กระจก เซรามิก สินค้าแตกหักง่าย
  • สินค้าประเภทเครื่องดื่ม หรือของเหลวทุกชนิด
  • สินค้าใช้แล้ว (มือสอง) ทั้งที่มีและไม่มีเอกสารยืนยันราคา
  • สินค้าประเภทเครื่องดนตรีทุกชนิด
  • วัตถุมงคล เทวรูป หรือวัตถุบูชาทางศาสนา

การส่ง DHL eCommerce ต้องแสดงบัตรประชาชนผู้ส่งทุกครั้ง

นอกจากที่ต้องเตรียมของที่ต้องการจัดส่ง แพ็คสินค้า เขียนชื่อที่อยู่ผู้รับ และผู้ส่งให้เรียบร้อยแล้วยังต้องพกบัตรประจำตัวประชาชน ไปแสดงก่อนทำการจัดส่งทุกครั้ง ด้วยเป็นไปตามมาตรการของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อให้สามารถตรวจสอบผู้ส่งได้อย่างถูกต้อง ในกรณีที่มีการแอบส่งสิ่งที่ผิดกฏหมาย โดยถ้าไม่ได้นำบัตรประชาชนมาแสดง DHL eCommerce ก็จะไม่ทำการรับฝากส่งสินค้า

รูป DHL eCommerce แสดงบัตรประชาชนทุกครั้ง เมื่อทำการฝากส่ง
รูป DHL eCommerce แสดงบัตรประชาชนทุกครั้ง เมื่อทำการฝากส่งสินค้า

ราคาค่าส่ง DHL eCommerce เริ่มต้นที่เท่าไหร่

ราคาค่าส่ง DHL eCommerce ราคาเริ่มต้นที่ 25 บาทเท่านั้น สำหรับจัดส่งสินค้าที่เป็นซองขนาดเล็กปริมาณรวมกันไม่เกิน 43 cm และความหนาไม่เกิน 2.5 cm (จำง่ายๆคือขนาดใหญ่กว่าครึ่ง A4 นิดหน่อย) หรือจะเป็นซองกระดาษขยายข้างที่ขนาดกว้าง + ยาว + สูง ไม่เกิน 51 cm และความหน้าซองไม่เกิน 5 cm ส่วนกล่องขนาดใหญ่สุดที่ได้ราคาเริ่มต้น 25 บาท คือกล่องขนาด A ขนาดกว้าง + ยาว + สูง cm และราคานี้เป็นราคาสำหรับจัดส่งปลายทางอยู่ที่ กรุงเทพฯ ปริมณฑล และภายในภาคเท่านั้น

น้ำหนักมากสุด ขนาดใหญ่สุดที่สามารถจัดส่งได้

น้ำหนักมากสุด ขนาดใหญ่สุดที่สามารถจัดส่งได้ จะอยู่ที่สินค้าน้ำหนักไม่เกิน 30 กิโลกรัม และขนาดใหญ่สุด กว้าง+ยาว+สูง แล้วจะต้องไม่เกิน 200 cm ถ้าเป็นของใหญ่อาจจะต้องลองวัดขนาดกันดีๆก่อนขนมาส่งนะครับ ได้ไม่เสียเวลา

ส่งของกับ DHL eCommerce สามารถเช็คสถานะได้จากที่ไหน

สามารถเช็คสถานะของสินค้าที่จัดส่งกันได้จากลิงค์นี้เลย https://ecommerceportal.dhl.com/track/

ส่งสินค้ากับ DHL eCommerce ใช้เวลากี่วัน

DHL eCommerce เป็นการจัดส่งสินค้าภายในประเทศเท่านั้น จะใช้เวลาอยู่ที่ 1-3 วันทำการ ขึ้นกับแต่ละที่จัดส่ง ถ้าไกลก็มีโอกาสที่จะช้าสักหน่อยครับ และอันนี้ยังไม่รวมกรณีที่เกินภัยหรือเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงนะครับ เช่นก่อนหน้านี้ มีหลายพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม ก็อาจจะต้องใช้เวลามากขึ้นกว่าปกติอีกสักหน่อยครับ

รู้รายละเอียดการจัดส่งสินค้าผ่าน DHL eCommerce กันเรียบร้อยแล้ว สนใจสั่งสินค้าจาก Dooview เลือกกันได้จาก ที่นี่

เพิ่มความแตกต่างให้กับสินค้า สร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด้วยบริการสกรีนซองไปรษณีย์ ชมรายละเอียดกันได้จาก ที่นี่

รูปสกรีนซองไปรษณีย์
รูปสกรีนซองไปรษณีย์

ช้อปดีมีคืน 2566

เริ่มกันอีกรอบแล้วสำหรับโครงการช้อปดีมีคืน 2566 วันนี้ Dooview สรุปเอารายละเอียดที่สำคัญ ที่จำเป็นต้องรู้เพื่อจะได้สามารถนำไปลดหย่อนภาษีในปีหน้าได้อย่างถูกต้อง โดยปีนี้เราสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด ถึง 40000 บาทกันเลยทีเดียว

ช้อปดีมีคืน 2566 สามารถลดหน่อยภาษีได้สูงสุดเท่าไหร่?

ปีนี้สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 40000 บาท แต่ๆๆๆๆ อย่าพึ่งดีใจกันไป ใน 40000 บาทนี้จะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ
ส่วนที่ 1 จำนวนเงิน 30000 บาท สำหรับสินค้าทั่วไป เช่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ
ส่วนที่ 2 จำนวนเงิน 10000 บาท สำหรับสินค้าทั่วไปที่เป็นใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์อีก แต่ต้องระวังว่าใบกำกับที่ได้ร้านค้าต้องลงทะเบียนกับสรรพากร และใช้ระบบออกใบเสร็จที่ถูกต้อง สามารถกดดูรายละเอียดรูปแบบ ใบกํากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์/ใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ได้จาก ที่นี่ หรือกดที่รูปด้านล่างนี้

ใบกํากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์/ใบรับอิเล็กทรอนิกส์ e-Tax Invoice & e-Receipt
ใบกํากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์/ใบรับอิเล็กทรอนิกส์ e-Tax Invoice & e-Receipt


ช้อปดีมีคืน 2566 ซื้อสินค้าอะไรไม่ได้?

ปีนี้สินค้าที่ “ไม่สามารถนำมาลดหย่อนได้” คือ สุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ น้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ หนังสือและนิตยสาร ค่าบริการหนังสือ หรือนิตยสารอิเล็กทรอนิกส์ E-Book ค่าบริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยว และค่าที่พักโรงแรม โดยรายละเอียดสินค้าที่สามารถนำมาลดหย่อนได้จะเหมือนหรือใกล้เคียงกับโครง ช้อปดีมีคืน 2565 ที่ผ่านมาแล้ว

ช้อปดีมีคืน 2566 เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่?

โครงการช้อปดีมีคืน 2566 จะเริ่มตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2566 คือ วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566

เรียกกันได้ว่าช้อปกันตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียว และอย่าลืมเก็บใบกำกับภาษีเต็มรูปไว้ด้วยนะครับ

รายละเอียดที่จำเป็นต้องมีในใบกำกับภาษี

” ข้อมูลสำคัญที่ต้องมีใบกำกับภาษี ” ได้แก่

1. คำว่า “ใบกำกับภาษี” ในที่เห็นได้เด่นชัด

2. ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ออกใบกำกับภาษี

3. ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการซึ่งเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

4. หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี และหมายเลขของเล่ม (ถ้ามี)

5. ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ

6. จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการให้ชัดแจ้ง

7. วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี

ตัวอย่างใบกำกับภาษีเต็มรูป
ตัวอย่างใบกำกับภาษีเต็มรูป

ปิดท้ายกันด้วยสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันสำหรับการลดหย่อนภาษี

หลังจากที่ซื้อสินค้าเรียบร้อยแล้ว อย่างลืมเก็บใบกำกับภาษีไว้เป็นหลักฐาน ทุกครั้ง ทุกรายการ เพื่อยืนยันต่อเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร ตอนยื่นภาษีเมื่อสิ้นสุดปี 2566 และอย่าลืมลองคำนวนก่อนนะครับว่า ปีนี้เราต้องเสียภาษีเท่าไหร่ ถ้าโครงการนี้ยังไม่พอ อย่าลืมลงทุนกับกองทุน SSF หรือ RMF ที่นอกจากจะสามารถช่วยประหยัดภาษีที่ต้องเสียแล้ว ยังเป็นการลงทุนอีกทางนึงด้วย

สั่งซื้อสินค้าของ Dooview.com ก็สามารถออกใบกำกับภาษี ใช้ลดหย่อนได้นะครับ

ซองไปรษณีย์พลาสติก หลายหลายสี หนา 130-140 ไครอน หรือจะเป็นเทปใส เทปน้ำตาล หนา 45 ไมครอน ซองใสใส่เสื้อผ้าฝากาว ซองหลังกาวสำหรับใส่เอกสาร กดชมสินค้ากันได้ก่อนจาก ที่นี่

SHOP

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.bangkokbiznews.com/business/983215
https://www.rd.go.th/publish/seminar/180820_eTaxInvoice-eReceipt_doc.pdf